สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต

สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต

การมองเห็น

TalkBack
ฟีเจอร์เครื่องมืออ่านหน้าจอช่วยผู้ใช้ที่มีความบกพร่องด้านการมองเห็นได้ คุณลักษณะจะทำการอ่านออกเสียงเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจคอนเทนต์ที่อยู่ในหน้าจอได้ คุณจึงสามารถใช้อุปกรณ์ของคุณได้โดยไม่ต้องมองหน้าจอ
  • * วิธีการเปิด : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > TalkBack
  • * Voice Assistant ที่มีอยู่กับ TalkBack ของ Google ถูกรวมเข้าด้วยกันไว้ในคุณลักษณะตัวอ่านหน้าจอ ฟีเจอร์ TalkBack โฉมใหม่รวมเอาจุดเด่นและคุณสมบัติต่าง ๆ ของตัวอ่านหน้าจอแต่ละแบบไว้ ลองใช้งานได้ด้วยตัวคุณเองเลย ฟีเจอร์ผู้ช่วยคำสั่งเสียงจะให้บริการอย่างต่อเนื่องกับ Google TalkBalk (One UI 3.0 เป็นต้นไป)
เรียนรู้เพิ่มเติม
โหมดการแสดงผล
ในโหมดการแสดงผล (Display Mode) คุณสามารถเพิ่มคอนทราสต์ของหน้าจอหรือทำให้คอนเทนต์ต่าง ๆ ดูใหญ่ขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดคุณลักษณะการใช้งานได้สำหรับทุกคนอย่างแบบตัวอักษรคอนทราสต์สูง แป้นพิมพ์คอนทราสต์สูง และการซูมหน้าจอทีละอัน เพราะคุณสามารถเลือกโหมดที่เหมาะสมสำหรับคุณได้ในทันที
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > โหมดการแสดงผล (Display mode)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI 4.0 เป็นต้นไป
ธีมคอนทราสต์สูง
ใช้ธีมที่มีเนื้อหาสีอ่อนที่ตัดกับฉากหลังสีเข้มเพื่อให้คุณอ่านได้ง่ายขึ้นและมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่าเดิม ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณใช้โทรศัพท์ในสภาพแวดล้อมมืด ๆ เป็นเวลานาน คุณสามารถเลือกธีมคอนทราสต์สูงมากมายได้ใน Galaxy Themes
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > ธีมคอนทราสต์สูง (High contrast theme)
แบบตัวอักษรคอนทราสต์สูง
ปรับสีและรูปทรงของแบบตัวอักษรเพื่อเพิ่มคอนทราสต์ระหว่างตัวอักษรและฉากหลัง
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > แบบตัวอักษรคอนทราสต์สูง (High contrast fonts)
แป้นพิมพ์คอนทราสต์สูง
ตัวเลือกแป้นพิมพ์คอนทราสต์สูงต่าง ๆ ช่วยเพิ่มขนาดของแป้นพิมพ์ Samsung พร้อมเปลี่ยนสีของปุ่มต่าง ๆ เพื่อเพิ่มคอนทราสต์ระหว่างข้อความกับฉากหลัง
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > แป้นพิมพ์คอนทราสต์สูง (High contrast keyboard)
ปุ่มไฮไลท์
แสดงปุ่มต่าง ๆ ด้วยสีเพื่อให้ปุ่มเหล่านั้นดูโดดเด่น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > ปุ่มไฮไลท์ (Highlight buttons)
โครงร่างแบบ Relumino
หากคุณประสบปัญหาในการดูวัตถุต่าง ๆ ในวิดีโอหรือรูปถ่ายบนหน้าจอของคุณเนื่องจากมองเห็นภาพไม่ชัด ลองใช้โครงร่างแบบ Relumino ซึ่งจะทำให้ขอบเขตระหว่างวัตถุกับสภาพแวดล้อมดูเด่นชัดขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > โครงร่าง Relumino (Relumino outline)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI 6.1 เป็นต้นไป
  • * ความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์นี้อาจแตกต่างกันไปตามข้อมูลจำเพาะของรุ่นผลิตภัณฑ์
การสับเปลี่ยนสี
สับเปลี่ยนสีหน้าจอเพื่อให้มองเห็นได้ดียิ่งขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > การสับเปลี่ยนสี (Color inversion)
การแก้ไขสี
หากเป็นเรื่องยากสำหรับคุณในการจำแนกสีบางสีบนหน้าจอ ลองใช้การแก้ไขสีที่จะช่วยให้คุณมองเห็นสีต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับและตั้งค่าการผสมผสานสีสันที่เหมาะสำหรับคุณมากที่สุด
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > การแก้ไขสี (Color correction)
ฟิลเตอร์สี
บางคนอาจพบว่าการอ่านในหน้าจอสีขาวนั้นมีความยากลำบากจนทำให้ไม่มีสมาธิในการอ่านบทความหรือข้อความ หากคุณเผชิญกับปัญหานี้อยู่ ให้ลองใช้ฟิลเตอร์สีดู เพราะการเปลี่ยนสีหน้าจอที่แสดงอยู่นั้นอาจช่วยเพิ่มความเร็วและความสบายในการอ่านได้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > ฟิลเตอร์สี (Color filter)
  • * ความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์นี้อาจแตกต่างกันไปตามข้อมูลจำเพาะของรุ่นผลิตภัณฑ์
ลดภาพเคลื่อนไหว
ลดความอ่อนล้าของดวงตาด้วยการลดเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวหรือลบออกไป ซึ่งเป็นเอฟเฟกต์ที่เกิดขึ้นระหว่างหน้าเว็บหรือผ่านทางการใช้แอปพลิเคชัน
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > ลดภาพเคลื่อนไหว (Reduce animations)
ลดความโปร่งใสและความเบลอ
ลดความโปร่งใสและภาพที่ไม่ชัดในบทสนทนาและเมนูต่าง ๆ เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > ลดความโปร่งใสและความเบลอ (Reduce transparency and blur)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI 4.0 เป็นต้นไป
การหรี่แบบพิเศษ
หากหน้าจอของคุณสว่างเกินไป แม้จะตั้งค่าความสว่างต่ำสุดแล้วก็ตาม ให้เปิดการหรี่แบบพิเศษเพื่อให้สามารถอ่านในที่มืดได้สบายยิ่งขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > การหรี่แบบพิเศษ (Extra dim)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI 4.0 เป็นต้นไป
  • * คุณลักษณะนี้อาจไม่รองรับในผลิตภัณฑ์บางรุ่น
ขยายให้เห็นได้ชัดเจน
คุณสามารถขยายหน้าจอทั้งหมดหรือซูมดูเฉพาะส่วนของหน้าจอที่เลือก เข้าถึงฟังก์ชันการขยายให้เห็นได้ชัดเจนได้อย่างรวดเร็วด้วยการใช้ปุ่มลัด คุณสามารถสลับไปมาระหว่างการขยายทั้งหน้าจอและโหมดการขยายหน้าจอเพียงบางส่วนได้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > ขยายให้เห็นได้ชัดเจน (Magnification)
แว่นขยาย
วิดเจ็ตแว่นขยายช่วยให้คุณซูมดูวัตถุรอบ ๆ คุณได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้น วิดเจ็ตดังกล่าวยังมาพร้อมกับฟิลเตอร์สี, การควบคุมความสว่างกับคอนทราสต์เพื่อให้เห็นข้อความกับภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น คุณสามารถเพิ่มวิดเจ็ตแว่นขยายไปยังหน้าจอหลักได้จากเมนูวิดเจ็ต
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > แว่นขยาย (Magnifier)
ความหนาของเคอร์เซอร์
คุณสามารถตั้งค่าความหนาของเคอร์เซอร์ข้อความเพื่อการจำแนกด้านการมองเห็นที่ดีขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > ความหนาของเคอร์เซอร์ (Cursor thickness)
ขนาดและสีของตัวชี้
คุณสามารถปรับเปลี่ยนขนาดหรือสีของตัวชี้เมาส์หรือทัชแพ็ดที่แสดงผลบนหน้าจอได้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > ขนาดและสีของตัวชี้ (Pointer size and color)
ขนาดและแบบตัวอักษร
คุณสามารถเปลี่ยนขนาดและแบบตัวอักษรได้เพื่อให้คุณอ่านตัวอักษรในหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > ขนาดและแบบตัวอักษร (Font size and style)
การซูมหน้าจอ
เปลี่ยนการซูมหน้าจอ ฟีเจอร์จะปรับขนาดของสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในหน้าจอของคุณ
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > การซูมหน้าจอ (Screen zoom)
อ่านออกเสียงการป้อนข้อมูลแป้นพิมพ์
คุณสามารถให้แป้นพิมพ์ของ Samsung อ่านออกเสียงข้อความที่คุณป้อนได้ การอ่านออกเสียงการป้อนข้อมูลแป้นพิมพ์สามารถอ่านออกเสียงตัวอักษรที่คุณพิมพ์, คำที่คุณพิมพ์ หรือทั้งสองอย่างได้ตามการตั้งค่าของคุณ
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > อ่านออกเสียงการป้อนข้อมูลแป้นพิมพ์ (Speak keyboard input aloud)
เสียงบรรยาย
คุณสามารถตั้งค่าเพื่อรับฟัง 'เสียงบรรยาย' ได้โดยอัตโนมัติ เมื่อคุณชมวิดีโอที่ประกอบไปด้วยเสียงบรรยาย
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > เสียงบรรยาย (Audio description)
Bixby Vision สำหรับการใช้งานได้สำหรับทุกคน
Bixby Vision สามารถพูดบรรยายสิ่งที่มองเห็นได้ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถรับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ในโลกรอบตัวคุณได้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > Bixby Vision เพื่อการใช้งานได้สำหรับทุกคน (Bixby Vision for accessibility)
  • * ปัจจุบันโหมด Scene Describer รองรับภาษาอังกฤษ (สหรัฐฯ) ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาอิตาลี ภาษาเกาหลี ภาษาจีนกลาง ภาษาโปรตุเกส ภาษารัสเซีย และภาษาสเปน (สเปน)
  • * โหมด Object Identifier รองรับ 60 ภาษา ซึ่งเป็นภาษาเดียวกันกับที่รองรับในฟีเจอร์การแปล
เลเบลเสียง
คุณสามารถใช้แท็ก NFC เพื่อแยกแยะวัตถุต่าง ๆ ที่มีรูปร่างคล้ายคลึงกันได้ด้วยการติดเลเบลให้กับวัตถุเหล่านั้น คุณสามารถบันทึกและมอบหมายการบันทึกเสียงให้กับแท็ก NFC ได้ ซึ่งโทรศัพท์จะเล่นการบันทึกเสียงดังกล่าวเมื่อคุณวางโทรศัพท์ไว้ใกล้กับแท็ก NFC
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Vision enhancements) > เลเบลเสียง (Voice label)

การได้ยิน

Live Transcribe
สนทนาได้อย่างง่ายดายกว่าเดิมด้วย Live Transcribe ใน Android ฟีเจอร์นี้จะสามารถรับรู้ภาษาพูดกว่า 70 ภาษาและสำเนียงได้ โดยจะแสดงผลเป็นคำบรรยายตามจังหวะการสนทนาของคุณ
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > Live Transcribe
  • * อาศัยเทคโนโลยีการจดจำคำพูดของ Google ในการทำงาน
  • * บทสนทนาเก็บอยู่เฉพาะในโทรศัพท์ของคุณ ไม่ใช่บทสนทนาที่เก็บอยู่ในเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ
Live Caption
Live Caption ใน Android จะสร้างคำบรรยายให้กับสื่อทุกรูปแบบที่เล่นอยู่ในโทรศัพท์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ, พ็อดแคสต์, ข้อความเสียงใด ๆ ในแอปต่าง ๆ รวมไปถึงสื่อที่คุณบันทึกด้วยตัวคุณเองอีกด้วย
โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Wi-Fi หรือข้อมูลมือถือ
ด้วยฟีเจอร์ Live Caption ในตัวเลือกการโทร (Calls) คุณจะสามารถอ่านคำพูดของสายโทรเข้าผ่านคำบรรยายที่ปรากฏโดยอัตโนมัติ และตอบกลับด้วยการพิมพ์ข้อความ ซึ่งเครื่องจะอ่านออกเสียงให้แก่ผู้รับโดยใช้ Speech Service โดย Google
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > Live Caption
  • * ความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์นี้อาจแตกต่างกันไปตามข้อมูลจำเพาะของรุ่นผลิตภัณฑ์
  • * อาจไม่สามารถสร้างคำบรรยายให้กับคอนเทนต์บางอย่างได้
การตั้งค่าคำบรรยาย
คุณสามารถเปิดปิดคำบรรยายและปรับขนาดหรือสไตล์ของคำบรรยายได้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > การตั้งค่าคำบรรยาย (Caption preference)
  • * การตั้งค่าคำบรรยายสดไม่รองรับกับทุกแอป
การแจ้งเตือนเสียง
การแจ้งเตือนเสียงช่วยแจ้งให้คุณทราบเสียงรอบข้างต่าง ๆ ได้ คุณลักษณะนี้จะทำให้คุณรับรู้ได้ถึงสถานการณ์สำคัญ ๆ ในบ้านเช่นออดประตูที่ดังอยู่ เพื่อให้คุณตอบสนองได้อย่างทันท่วงที
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > การแจ้งเตือนเสียง (Sound notifications)
การสนับสนุนตัวช่วยในการได้ยิน
เพิ่มคุณภาพของเสียงให้ทำงานได้ดีขึ้นกับอุปกรณ์ช่วยฟังของคุณ
คุณลักษณะของการส่งเสียงจากการสตรีมและสายโทรศัพท์ออกไปนั้นจะรองรับกับอุปกรณ์ช่วยฟังที่เชื่อมต่อด้วย Bluetooth Low Energy (BLE) (One UI 2.0 เป็นต้นไป)
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > การสนับสนุนตัวช่วยในการได้ยิน (Hearing aid support)
  • * คุณลักษณะนี้อาจไม่รองรับในผลิตภัณฑ์บางรุ่น
ระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง
คุณสามารถเพิ่มเสียงรอบ ๆ โทรศัพท์ของคุณ และรับฟังเสียงเหล่านั้นได้ด้วยชุดหูฟังที่เชื่อมต่อ
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > ระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง (Amplify ambient sound)
  • * คุณลักษณะนี้อาจไม่รองรับในผลิตภัณฑ์บางรุ่น
เสียงที่ปรับให้เข้ากับคุณ
คุณอาจมีความไวหรือช้าต่อการได้ยินความถี่เสียงต่าง ๆ เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ เสียงที่ปรับให้เข้ากับคุณมอบเสียงที่สมบูรณ์แบบซึ่งปรับจูนมาไว้ให้เข้ากับหูของคุณโดยเฉพาะ เลือกการตั้งค่าล่วงหน้าที่ตรงกับอายุของคุณ หรือลองทดสอบการได้ยินเพื่อให้ได้เสียงที่เหมาะกับคุณที่สุดดู
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > เสียงที่ปรับให้เข้ากับคุณ (Adapt Sound)
ปิดเสียงทั้งหมด
ฟีเจอร์ปิดเสียงทั้งหมดนั้นช่วยปิดเสียงทุกเสียงของอุปกรณ์
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > ปิดเสียงทั้งหมด (Mute all sounds)
เสียงแบบโมโน
เสียงแบบโมโนรวมเสียงแบบสเตอริโอเข้าด้วยกันให้เป็นสัญญาณเสียงเดียวที่สามารถเล่นผ่านลำโพงหูฟังได้ทุกแบบ ให้ลองใช้ฟีเจอร์นี้หากหูแต่ละข้างของคุณได้ยินเสียงไม่เท่ากัน หรือหากคุณรู้สึกว่าสะดวกกว่าที่จะใช้หูฟังข้างเดียว
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > เสียงแบบโมโน (Mono audio)
สมดุลเสียงซ้าย/ขวา
ปรับสมดุลเสียงซ้าย/ขวาให้เข้ากับความต้องการด้านการได้ยินของคุณ
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > สมดุลเสียงซ้าย/ขวา (Left/Right sound balance)
  • * ฟีเจอร์นี้ไม่สามารถใช้ได้กับระดับเสียงการโทร

การเคลื่อนไหว

Universal switch
ผู้ใช้ที่มีความลำบากในการเคลื่อนไหวร่างกายสามารถควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายด้วย สวิตช์แบบต่าง ๆ อย่างสวิตช์จับการเคลื่อนไหวของศีรษะ, สวิตช์จับการแสดงออกทางใบหน้า และสวิตช์ภายนอก สวิตช์อเนกประสงค์ช่วยให้คุณกำหนดการสัมผัสหรือท่าทางต่าง ๆ เพื่อควบคุมการดำเนินการที่เฉพาะเจาะจงต่าง ๆ ในโทรศัพท์ของคุณได้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การมีปฏิสัมพันธ์และความคล่องแคล่วในการใช้ (Interaction and dexterity) > Universal switch
เรียนรู้เพิ่มเติม
Assistant menu
แสดงไอคอนปุ่มลัดตัวช่วยสำหรับการเข้าใช้งานแอป, ฟีเจอร์ และการตั้งค่าต่าง ๆ ได้ Assistant menu ช่วยให้คุณสามารถควบคุมโทรศัพท์ของคุณได้อย่างง่ายดาย ด้วยการแตะไอคอนเมนูตัวช่วยในหน้าจอของคุณแทนการกดปุ่มจริง ๆ
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การมีปฏิสัมพันธ์และความคล่องแคล่วในการใช้ (Interaction and dexterity) > Assistant menu
เรียนรู้เพิ่มเติม
Voice Access
หากคุณมีปัญหาในการสัมผัสหน้าจอ คุณสามารถใช้การเข้าถึงด้วยเสียงพูดเพื่อควบคุมอุปกรณ์ด้วยคำสั่งเสียง ลองใช้คำสั่งเสียงการนำทางง่าย ๆ อย่าง 'ย้อนกลับ' หรือ 'กลับไปหน้าหลัก' หรือเปิดแอปโปรดของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น การเข้าถึงด้วยเสียงพูดยังมีมุมมองแบบเส้นกริด/หมายเลขที่คุณสามารถเรียกใช้งานได้ด้วยการพูดว่า 'แสดงเส้นกริด' หรือ 'แสดงหมายเลข' ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถใช้คำสั่งอย่าง 'แตะหมายเลข 3', 'เลื่อนลงไปยังหมายเลข 7' และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อควบคุมหน้าจอปัจจุบัน
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การมีปฏิสัมพันธ์และความคล่องแคล่วในการใช้ (Interaction and dexterity) > การเข้าถึงด้วยเสียงพูด (Voice Access)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI 4.0 เป็นต้นไป
  • * การใช้งานด้วยเสียงพูดในปัจจุบันรองรับภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาลี ภาษาเยอรมัน ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส และมีแผนที่จะรองรับกับภาษาอื่น ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้
การรับและการวางสายโทรศัพท์
หากคุณรู้สึกลำบากในการลากปุ่มในหน้าจอเพื่อรับสายโทรศัพท์แล้วล่ะก็ ฟีเจอร์นี้จะสามารถช่วยคุณได้ คุณสามารถใช้ปุ่มเร่งระดับเสียงเพื่อรับโทรศัพท์และใช้ปุ่มด้านข้างเพื่อวางสายได้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การมีปฏิสัมพันธ์และความคล่องแคล่วในการใช้ (Interaction and dexterity) > การรับและการวางสายโทรศัพท์ (Answering and ending calls)
การตั้งค่าการสัมผัส
บางคนอาจมีอาการมือสั่นซึ่งทำให้การสัมผัสหน้าจอกลายเป็นเรื่องยาก ฟีเจอร์การตั้งค่าการสัมผัสดังต่อไปนี้ช่วยให้สามารถลดข้อผิดพลาดในการสัมผัสและปรับแต่งการตอบสนองการใช้งานให้ตรงตามความต้องการของคุณได้ เพื่อการควบคุมที่ดีกว่าเดิม
  • ปรับระยะเวลาการสัมผัสแบบกดค้าง (Touch and hold delay): ปรับระยะเวลาที่ใช้ในการตอบสนองเพื่อให้อุปกรณ์สามารถรับรู้การกดค้างในแบบของคุณได้
  • ปรับระยะเวลาการแตะสัมผัส (Tap duration): ปรับระยะเวลาที่ใช้ในการตอบสนองเพื่อลดการแตะสัมผัสที่ไม่ตั้งใจลง
  • ไม่สนใจการสัมผัสแบบซ้ำ ๆ (Ignore repeated touches): กำหนดระยะเวลาเพื่อให้อุปกรณ์ไม่สนใจการสัมผัสแบบซ้ำ ๆ ใด ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการสัมผัสครั้งแรก
  • * เปิดใช้งานได้ที่ไหน : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การมีปฏิสัมพันธ์และความคล่องแคล่วในการใช้ (Interaction and dexterity) > การตั้งค่าการสัมผัส (Touch settings)
เมาส์และแป้นพิมพ์จริง
ตั้งค่าการมีปฏิสัมพันธ์ของคุณด้วยแป้นพิมพ์จริงเพื่อรองรับกับอาการมือสั่น ปุ่มลัด และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถตั้งค่าเมาส์ให้คลิกอัตโนมัติได้เมื่อเคอร์เซอร์หยุดเคลื่อนที่
  • แอ็กชันอัตโนมัติหลังจากที่เคอร์เซอร์หยุด : สร้างแอ็กชันได้โดยอัตโนมัติตามเวลาหน่วงที่คุณตั้ง เมื่อคุณหยุดเลื่อนเมาส์ หรือเมื่อคุณเลื่อนเคอร์เซอร์ไปยังแต่ละมุม
  • ปุ่มลัด (Sticky keys): รวมการกดปุ่มต่าง ๆ พร้อมกันไว้ได้ในการกดปุ่มลัดเพียงครั้งเดียว แทนการกดปุ่มทั้งหมดพร้อมกัน
  • เพิ่มระยะเวลาในการกดปุ่ม (Slow keys): ปรับระยะเวลาที่ใช้ในการกดปุ่มเพื่อให้อุปกรณ์สามารถรับรู้ว่าการกดแบบใดนั้นถือว่าเป็นอินพุตได้ เพื่อลดการกดปุ่มแป้นพิมพ์แบบไม่ได้ตั้งใจลง
  • เพิ่มระยะเวลาในการกดปุ่มซ้ำ (Bounce keys): ตั้งค่าระยะเวลาระหว่างการกดปุ่มเดียวกันในครั้งแรกและครั้งต่อ ๆ ไปเพื่อหลีกเลี่ยงการกดปุ่มเดียวกันที่มากเกินไปแบบไม่ตั้งใจ
  • * เปิดใช้งานได้ที่ไหน : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การมีปฏิสัมพันธ์และความคล่องแคล่วในการใช้ (Interaction and dexterity) > เมาส์และแป้นพิมพ์จริง (Mouse and physical keyboard)

การรับรู้

Interaction control
การควบคุมการมีปฏิสัมพันธ์ช่วยให้คุณมีสมาธิไปกับแอปเพียงแอปเดียวได้ด้วยการบล็อกปุ่มย้อนกลับ, หน้าหลัก และล่าสุด รวมถึงปิดกั้นสายโทรเข้าและการแจ้งเตือนต่าง ๆ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกได้ว่าจะปิดกั้นการใช้งานปุ่มด้านข้าง, ปุ่มปรับระดับเสียง และแป้นพิมพ์ หรือปิดกั้นการสัมผัสหน้าจอบางส่วนหรือไม่ด้วยก็ได้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การมีปฏิสัมพันธ์และความคล่องแคล่ว (Interaction and dexterity) > การควบคุมการมีปฏิสัมพันธ์ (Interaction Control)

ทั่วไป

ทั่วไป

สิ่งที่แนะนำสำหรับคุณ
คุณสามารถตรวจดูว่าได้เปิดใช้งานฟีเจอร์การใช้งานได้สำหรับทุกคนใดไปแล้วบ้าง พร้อมรับคำแนะนำเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่จะทำให้ชีวิตคุณสะดวกสบายขึ้น
  • * เปิดใช้งานได้ที่ไหน : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > สิ่งที่แนะนำสำหรับคุณ (Recommended for you)
ปุ่มลัดการใช้งานได้สำหรับทุกคน
ปุ่มลัดการใช้งานได้สำหรับทุกคนช่วยให้คุณเข้าถึงคุณลักษณะการใช้งานได้สำหรับทุกคนได้รวดเร็วและง่ายกว่าเดิม
  • ใช้ปุ่ม/ท่าทางการใช้งานได้สำหรับทุกคน
  • กดปุ่มด้านข้างและปุ่มเพิ่มระดับเสียงแล้วปล่อย
  • กดปุ่มเพิ่มระดับเสียงและปุ่มลดระดับเสียงค้างไว้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การตั้งค่าขั้นสูง (Advanced settings) > ปุ่มลัดการใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility shortcuts)
การแจ้งเตือนแบบไฟกะพริบ
การแจ้งเตือนแบบไฟกะพริบจะกะพริบแฟลชกล้องหรือหน้าจอเมื่อคุณได้รับการแจ้งเตือนหรือสัญญาณเตือนดัง คุณสามารถเลือกสีต่าง ๆ สำหรับแต่ละแอปเพื่อแยกแยะได้อย่างง่ายดายว่าการแจ้งเตือนหรือสัญญาณเตือนนั้นมาจากไหน
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การตั้งค่าขั้นสูง (Advanced settings) > การแจ้งเตือนแบบไฟกะพริบ (Flash notification)
  • * คุณลักษณะนี้อาจไม่รองรับในผลิตภัณฑ์บางรุ่น
เวลาในการดำเนินการ
คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงข้อความที่เรียกร้องให้คุณดำเนินการนานเท่าไร แต่เป็นการแสดงผลแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เช่น การแจ้งเตือนแบบชั่วคราวในหน้าจอหรือตัวควบคุมระดับเสียง ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณไม่พลาดเรื่องจำเป็นต่าง ๆ เลย
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การตั้งค่าขั้นสูง (Advanced settings) > เวลาในการดำเนินการ (Time to take action)
รีเซตการตั้งค่าการใช้งานได้สำหรับทุกคน
รีเซ็ตการตั้งค่าการใช้งานได้สำหรับทุกคนไว้เป็นค่าเริ่มต้น ขณะเดียวกันก็รักษาการตั้งค่าการปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบส่วนตัวอื่น ๆ ไว้เช่นเดิม
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การจัดการทั่วไป (General management) > รีเซต (Reset) > รีเซตการตั้งค่าการใช้งานได้สำหรับทุกคน (Reset accessibility settings)

นาฬิกา

นาฬิกา

การมองเห็น

TalkBack
ฟีเจอร์เครื่องมืออ่านหน้าจอช่วยผู้ใช้ที่มีความบกพร่องด้านการมองเห็นได้ คุณลักษณะจะทำการอ่านออกเสียงเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจคอนเทนต์ที่อยู่ในหน้าจอได้ คุณจึงสามารถใช้อุปกรณ์ของคุณได้โดยไม่ต้องมองหน้าจอ
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > TalkBack
แบบตัวอักษรคอนทราสต์สูง
ปรับสีและรูปทรงของแบบตัวอักษรเพื่อเพิ่มคอนทราสต์ระหว่างตัวอักษรและฉากหลัง
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Visibility enhancements) > แบบตัวอักษรคอนทราสต์สูง (High contrast fonts)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI Watch 4.5 เป็นต้นไป
การแก้ไขสี
หากเป็นเรื่องยากสำหรับคุณในการจำแนกสีบางสีบนหน้าจอ ลองใช้การแก้ไขสีที่จะช่วยให้คุณมองเห็นสีต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับและตั้งค่าการผสมผสานสีสันที่เหมาะสำหรับคุณมากที่สุด
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Visibility enhancements) > การแก้ไขสี (Color correction)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI Watch 4.5 เป็นต้นไป
การสับเปลี่ยนสี
สับเปลี่ยนสีหน้าจอเพื่อให้มองเห็นได้ดียิ่งขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Visibility enhancements) > การสับเปลี่ยนสี (Color inversion)
ฟิลเตอร์สี
บางคนอาจพบว่าการอ่านในหน้าจอสีขาวมีความยากลำบากจนทำให้ไม่มีสมาธิในการอ่านบทความหรือข้อความ หากคุณเผชิญกับปัญหานี้อยู่ ให้ลองใช้ฟิลเตอร์สีดู เพราะการเปลี่ยนสีหน้าจอที่แสดงอยู่จะช่วยเพิ่มความเร็วและความสบายในการอ่านได้
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Visibility enhancements) > ฟิลเตอร์สี (Color filter)
ลดภาพเคลื่อนไหว
ลดความอ่อนล้าของดวงตาด้วยการลดเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวหรือลบออกไป ซึ่งเป็นเอฟเฟกต์ที่เกิดขึ้นระหว่างหน้าเว็บหรือผ่านทางการใช้แอปพลิเคชัน
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Visibility enhancements) > ลดภาพเคลื่อนไหว (Reduce animations)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI Watch 4.5 เป็นต้นไป
ลดความโปร่งใสและความเบลอ
ลดความโปร่งใสและภาพที่ไม่ชัดในบทสนทนาและเมนูต่าง ๆ เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Visibility enhancements) > ลดความโปร่งใสและความเบลอ (Reduce transparency and blur)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI Watch 4.5 เป็นต้นไป
ขยายให้เห็นได้ชัดเจน
แตะหน้าจอสามครั้งด้วยนิ้วเดียวเพื่อซูมเข้าหรือซูมออกจากคอนเทนต์ในหน้าจอ
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Visibility enhancements) > ขยายให้เห็นได้ชัดเจน (Magnification)
ตัวอักษรหนา
คุณสามารถเปลี่ยนตัวอักษรให้เป็นตัวหนาได้เพื่อสามารถเห็นข้อความในนาฬิกาข้อมือได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Visibility enhancements) > ลดภาพเคลื่อนไหว (Reduce animations)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI Watch 4.5 เป็นต้นไป
ขนาดตัวอักษร
คุณสามารถเปลี่ยนขนาดตัวอักษรได้เพื่อสามารถเห็นข้อความในนาฬิกาข้อมือได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการมองเห็น (Visibility enhancements) > ขนาดตัวอักษร (Font size)
นาฬิกาข้อมือระบบสั่น
บอกเวลาปัจจุบันได้ด้วยการสั่น ใช้นิ้วสองนิ้วแตะหน้าปัดนาฬิกาเพื่อทราบหน่วยชั่วโมง และใช้นิ้วสองนิ้วแตะหน้าปัดนาฬิกาสองครั้งเพื่อทราบหน่วยนาที
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การตั้งค่าขั้นสูง (Advanced settings) > นาฬิกาข้อมือระบบสั่น (Vibration watch)

การได้ยิน

ปิดเสียงทั้งหมด
ฟีเจอร์ปิดเสียงทั้งหมดช่วยปิดเสียงทุกเสียงของอุปกรณ์
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > ปิดเสียงทั้งหมด (Mute All Sounds)
เสียงแบบโมโน
ให้หูฟังของคุณเปลี่ยนจากเสียงแบบสเตอริโอมาเป็นแบบโมโน ให้ลองใช้ฟีเจอร์นี้หากหูแต่ละข้างของคุณได้ยินเสียงไม่เท่ากัน หรือหากคุณรู้สึกว่าสะดวกกว่าที่จะใช้หูฟังข้างเดียว
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > เสียงแบบโมโน (Mono audio)
สมดุลเสียงซ้าย/ขวา
ปรับสมดุลเสียงซ้าย/ขวาให้เข้ากับความต้องการด้านการได้ยินของคุณ
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยิน (Hearing enhancements) > สมดุลเสียงซ้าย/ขวา (Left/Right sound balance)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI Watch 4.5 เป็นต้นไป
  • * ฟีเจอร์นี้ไม่สามารถใช้ได้กับระดับเสียงการโทร

การเคลื่อนไหว

ท่าทางสากล
ควบคุมนาฬิกาของคุณด้วยมือเดียวได้อย่างง่ายดาย ท่าทางด้วยมือข้างเดียวช่วยให้คุณสามารถดำเนินการต่าง ๆ ได้ เช่น เลื่อนหน้าจอ หรือกดปุ่ม
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การมีปฏิสัมพันธ์และความคล่องแคล่วในการใช้ (Interaction and dexterity)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI Watch 5.0 เป็นต้นไป
การตั้งค่าการสัมผัส
บางคนอาจมีอาการมือสั่นซึ่งทำให้การสัมผัสหน้าจอกลายเป็นเรื่องยาก การตั้งค่าการสัมผัสดังต่อไปนี้ช่วยให้คุณสามารถลดข้อผิดพลาดในการสัมผัสและปรับแต่งการตอบสนองการใช้งานให้ตรงตามความต้องการของคุณได้ เพื่อการควบคุมที่ดีกว่าเดิม:
  • ปรับระยะเวลาการสัมผัสแบบกดค้าง (Touch and hold delay): ปรับระยะเวลาที่ใช้ในการตอบสนองเพื่อให้อุปกรณ์สามารถรับรู้การกดค้างในแบบของคุณได้
  • ปรับระยะเวลาการแตะสัมผัส (Tap duration): ปรับระยะเวลาที่ใช้ในการตอบสนองเพื่อลดการแตะสัมผัสที่ไม่ตั้งใจลง
  • ไม่สนใจการสัมผัสแบบซ้ำ ๆ (Ignore repeated touches): กำหนดระยะเวลาเพื่อให้อุปกรณ์ไม่สนใจการสัมผัสแบบซ้ำ ๆ ใด ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการสัมผัสครั้งแรก
  • * เปิดใช้งานได้ที่ไหน : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การมีปฏิสัมพันธ์และความคล่องแคล่วในการใช้ (Interaction and dexterity)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI Watch 4.5 เป็นต้นไป

ทั่วไป

ทั่วไป

เวลาในการดำเนินการ
คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงข้อความที่เรียกร้องให้คุณดำเนินการนานเท่าไร แต่เป็นการแสดงผลแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เช่น การแจ้งเตือนแบบชั่วคราวในหน้าจอหรือตัวควบคุมระดับเสียง ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณไม่พลาดเรื่องจำเป็นต่าง ๆ เลย
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การตั้งค่าขั้นสูง (Advanced settings) > เวลาในการดำเนินการ (Time to take action)
  • * ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ One UI Watch 4.5 เป็นต้นไป
ปุ่มลัดการใช้งานได้สำหรับทุกคน
ปุ่มลัดการใช้งานได้สำหรับทุกคนช่วยให้คุณเข้าถึงคุณลักษณะการใช้งานได้สำหรับทุกคนได้รวดเร็วและง่ายกว่าเดิม
  • แตะสามครั้งด้วย 2 นิ้ว
  • กดปุ่มหน้าจอหลักสองครั้ง
  • * วิธีใช้ : การตั้งค่า (Settings) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > การตั้งค่าขั้นสูง (Advanced settings) > ปุ่มลัดการใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility shortcuts)

Buds

Buds

การได้ยิน

ความช่วยเหลือด้านการได้ยินสำหรับเสียงรอบข้าง
ช่วยให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างได้ดังขึ้นหรือฟังเสียงพูดตรงหน้าคุณได้ชัดกว่าเดิม
  • * วิธีใช้ : Galaxy Wearable > การตั้งค่าหูฟัง (Earbuds Setting) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยินสำหรับเสียงรอบข้าง (Hearing enhancement for Ambient sound)
  • * คุณลักษณะนี้อาจไม่รองรับในผลิตภัณฑ์บางรุ่น
ระดับเสียงรอบข้าง
ปรับระดับเสียงรอบข้างซ้าย/ขวาให้เข้ากับความต้องการด้านการได้ยินของคุณ
  • * วิธีใช้ : Galaxy Wearable > การตั้งค่าหูฟัง (Earbuds Setting) > การใช้งานได้สำหรับทุกคน (Accessibility) > ความช่วยเหลือด้านการได้ยินสำหรับเสียงรอบข้าง (Hearing enhancement for Ambient sound) > ระดับเสียงรอบข้าง (Ambient sound volume)
  • * คุณลักษณะนี้อาจไม่รองรับในผลิตภัณฑ์บางรุ่น

การสนับสนุนลูกค้าสำหรับการใช้งานได้สำหรับทุกคน

เราอยู่นี่เสมอเพื่อคอยช่วยเหลือและพัฒนาประสบการณ์การใช้งานได้สำหรับทุกคน